สวัสดีคะ ยินดีต้อนรับคะ

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

ท้องเสียหรือเปล่า?

                          ตอนทับทิมอายุได้เดือนกว่า ถ่ายวันหนึ่ง 12-15 ครั้งเลยละ แต่อุจจาระไม่เหลว ไม่มีมูกเลือด ลูกก็ร่าเริงดี เราก็กลัวลูกท้องเสียมาก  เลยเปิดอ่านในเน็ตหลายๆเว็บบอกเหมือนกันว่า ไม่เป็นไร ถ้าเด็กร่าเริงดี ไม่งอแง ไม่มีมูกเลือด ไม่ถ่ายเหลว แต่ไม่แน่ใจเลยโทรไปหาหมอเด็กอีกที หมอเด็กบอกว่าไม่เป็นไร บอกเหมือนในเน็ตเลยละ แล้วหมอเด็กแนะนำให้ใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Zinc oxide  มาทา เพราะเด็กถ่ายบ่อยก้นมักจะแดง แล้วถ้าถ่ายบ่อยอย่างนี้ พยายามล้างดีกว่าเช็ดเพราะก้นจะยิ่งแดงถ้าเช็ดบ่อยๆ เราคนเป็นแม่ก็ห่วงอย่างนี้แหละน๊า

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

หลังฉีดวัคซีน

                            พอทับทิมอายุ 2 เดือนเราก็พาไปฉีดวัคซีน ที่อนามัยใกล้บ้าน ตอนฉีดร้องน่าดูเลย อิอิ น่าสงสาร พอกลับมาบ้าน ก็ดูดนมหลับไป ตื่นขึ้นมาให้ดูดนม ก็ไม่เอา อยู่ๆก็ร้อง เราไม่รู้จะทำไงเลยจับหัดคว่ำ ยิ่งครางใหญ่เลย เราก็ยังใจร้ายให้คว่ำต่อ เพราะว่าให้อะไรก็ไม่เอา จนสุดท้ายนึกได้ว่าอาจเป็นไข้ วัดไข้ดู 37 กว่า โอ้!! เรารู้สึกผิดมากเลย ยังเอาลูกมาคว่ำอีก คนเราผู้ใหญ่เป็นไข้ยังปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเลย นี้ทับทิมคงปวดเมื่อยเหมือนกัน แต่เราดันจับลูกหัดคว่ำอีก เฮ้อออออ
                            หลังจากรู้ว่าลูกเป็นไข้ เราก็ให้ยาลดไข้ ก็ Paracetamal เฉยๆ นั้นแระ แล้วก็เช็ดตัวลดไข้ ทับทิมคงรู้สึกไม่สบายตัว เพลียๆ เลยหลับไป ไม่ค่อยร้องงอแง เหมือนตอนไม่เป็นอะไร แต่ดูดนมได้ดี พออีกชั่วโมงวัดไข้อีก 38 กว่า สูงขึ้นอีก จับมาเช็ดตัวลดไข้ จนไข้เริ่มลด และก็ติดแผ่นเจลลดไข้ที่หน้าผาก และตามซอก ข้อพับต่างๆ ยายก็โทรมาถามเพราะเป็นห่วงทับทิม เราบอกว่ามีไข้ ยายรีบบอกตาให้มาดูเลย ตาเลยรีบกลับบ้าน(ทำงานอยู่)  พอตามาถึงก็บอกว่าทับทิมมีไข้นี้หมดฤทธิ์เลย
                            ทับทิมเป็นไข้หลังจากฉีดวัคซีน หลังจากนั้นก็ดีขึ้น มีฤทธิ์เดชเหมือนเดิม

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

ประวัติของทับทิม


                              พอเราท้องได้ 38 +6 วัน เราก็ผ่าคลอด เพราะว่า ศรีษะทับทิมไม่ลงเชิงกราน เกิดที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย เพราะว่าเราทำงานอยู่ห้องผ่าตัดที่นั้น
                              ทับทิมเกิดวันที่ 10 มิถุนายน 2553 วันพฤหัสบดี ซึ่งเกิดวันเดียวกับปู่ทับทิม ทับทิมเกิดเมื่อเวลา 09.11 น. แรกเกิด น้ำหนัก 2850 ซึ่งคิดว่าจะมากกว่านั้นเพราะขณะท้องเราน้ำหนักขึ้น 21 กิโลกรัม และจากU/S คะเน ไว้ที่ 2900 -3000 ตอนอายุครรภได้ 37 weeks คิดว่าพอเกือบ 39 week คงประมาณ 3200 แต่แรกเกิดมากลับไม่ถึง3000 แถมรอบศรีษะก็เล็กกว่าปกติ (35) ได้ 32 เซนติเมตร ความยาวปกติ 51 เซนติเมตร สงสัยเพราะพ่อก่ะแม่สูง คะแนน  Apgar score 10 เต็ม ร้องดี แข็งแรง เราไม่ค่อยได้เห็นหน้าลูกเท่าไร เพราะเขาตะแคงข้างให้ตาก่ะยายอัดวีดิโอ คือตอนผ่าตัดเรา block หลัง แล้วให้ตากับยายเข้าไปด้วย แต่แฟนไม่กล้าเข้า หลังจากผ่าตัดเสร็จ คุณหมอผ่าตัดก็อุ้มทับทิมมาให้ที่ห้องพักฟื้น พามาดูดนม ดูดเก่งมาก ไม่หยุดเลย ทั้งที่ยังไม่มีน้ำนม ดูดนมได้ประมาณ 30 นาที ก็ถึงเวลากลับไปที่ห้อง แล้วก็ครบเวลาที่ต้องนำทับทิมไปอาบน้ำพอดี พอขึ้นมาห้องสักพัก ห้องเด็กก็พาทับทิมมาให้ที่ห้อง สักพักประมาณ ครึ่งชั่วโมงทับทิมก็ถ่ายออกมาเยอะมาก แล้วตากับยายก็ไม่อยู่เหลือแต่เราก่ะแฟน แฟนก็ทำไม่เป็น เราเลยต้องเช็ดอึทับทิมทั้งๆที่เวียนศรีษะมาก อยากอ๊วกเพราะฤทธิ์ยาชาที่บล็อกหลังด้วย ระหว่างนั้นก็ให้นมชงทับทิม(ที่จริงไม่ถูกต้อง) เพราะน้ำนมยังไม่ไหล และต้องอยู่รพ. 4 วัน เพราะว่าทับทิมเหลือง จากน้ำนมแม่ไม่ค่อยไหลและไม่ค่อยดูดนมแม่ ปลุกตื่นมาดูดนมก็ไม่ยอมดูด ดูดทีก็ใช้เวลาแป๊ปเดียว แต่ที่จริงค่า bilirubin ของทับทิม 12.7 เอง ปกติไม่เกิน 12 แต่คุณหมอเด็กอยากให้ส่องไฟ เราสงสารลูกมาก ร้องไห้ ไม่กล้าเข้าไปดูลูกเลย ที่จริงไม่มีอะไรหรอกแค่ส่องไฟอะ แต่พอห่างอกแม่ เห็นดิ้น ร้องก็สงสาร ทับทิมเลยกลับมาบ้านวันที่ 14
                              พอทับทิมอายุได้ เดือนกว่า วันที่ 17 เดือน กรกฎาคม ตาก็สู่ขวัญ ตัดผมให้ พอเป็นพิธี เชิญแต่ญาติพี่น้องกันเท่านั้น ดีวันนั้นทับทิมไม่ร้อง หลับและดูดนมอย่างเดียว แต่ตอนนี้ร้องอ้อนเก่งแล้วละ

พัฒนาการของทับทิม

                            เริ่มมองหน้าเราตอนอายุได้ 25 วัน ทำเสียงในคออายุได้ 15 วัน ยิ้มตอบยิ้มทับทาย 2 เดือนกว่า ทำเสียงอืออา สนใจฟังเสียง 1 เดือนกว่า มองตามสิ่งเคลื่อนไหว 2 เดือน ชันคอในท่าคว่ำใน 45 องศานี้ไม่ชันเลย แต่มาชัน 90 องศาตอน 2 เดือนกว่า ทักทายคนคุ้นเคย 2 เดือนกว่า หันหาเสียงหัวเราะ 2 เดือนกว่า อ้อแอ้ 2 เดือนกว่า เอามือจับกัน 2 เดือนเกือบ3 เดือน ตอนนี้ 3 เดือน หัวเราะเสียงดังแล้ว เราชอบดูทับทิมหัวเราะมาก
                            พอได้ 1 เดือนทับทิมก็หนัก 4000 กรัม พอ 2 เดือนหนัก 4700 กรัม 3 เดือนหนัก 5500 กรัม

เริ่มตัดเล็บลูกเมื่อไรดี

                            ส่วนมากเท่าที่เรารู้ๆกัน คุณหมอมักจะให้ตัดเล็บลูกเมื่อายุได้ 1เดือน เพราะว่าเล็บลูกยังอ่อน ยังไม่ค่อยเห็นเล็บสีขาว เราก็ตัดเล็บมือให้ทับทิมตอนอายุได้ 1 เดือน หลังจากตัดเล็บมือแล้ว เราก็ไม่ใส่ถุงมือให้ทับทิมเลย หัดให้ทับทิมได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กบ้าง ส่วนเล็บเท้า เรามาตัดตอน เดือนกว่าเกือบ 2 เดือน เพราะว่าดูยากมาก มองไม่เห็นเล็บสีขาว ถ้าคุณแม่ไม่แน่ใจ มองไม่เห็นเล็บสีขาวที่ต้องตัดออกไป อย่าเพิ่งตัดนะคะ ไม่งั้นอาจตัดเข้าไปลึก หรืออาจโดนเนื้อลูก ซ้ำมีโอกาสติดเชื้อจากแผลได้ด้วยคะ

การรับประทานอาหารและยาสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูก

                            คุณแม่ที่ให้นมลูกหลายท่านคงระมัดระวังตัวในการรับประทานอาหารและยาอยู่แล้วใช่ไหมคะ เพราะว่าเกรงจะลงไปที่น้ำนมสู่ลูกรัก และคงอยากรู้ว่าอาหารใด รับประทานได้ หรือไม่ได้ ง่ายๆคะ ห้ามรับประทานอาหารรสจัด เช่น เผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก พวกผลไม้ เช่น ส้มอะไรพวกนี้ รับประทานได้คะ เราและลูกเราจะได้วิตามินซีด้วยไงคะ
                            ส่วนยา ที่พอจะรับประทานได้เมื่อเราไม่สบายก็ เช่น Paracetamol  CPM  Amoxy Dextrometrazone (ยาแก้ไอ) ถ้าใครท้องผูกใช้ยาสวนก้น Unison Edema หรือว่าจะใช้ glycerine เหน็บระบายได้คะ ยาทาภายนอกส่วนมากมักจะไม่มีผลลงสู่น้ำนม ส่วนยาถ่ายพยาธิห้ามรับประทานนะคะ แต่อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ

การตรวจหลังคลอด

                              คุณแม่บางคน คงไม่อยากไป รพ.เพื่อไปตรวจหลังคลอด เพราะวุ้นกับเจ้าตัวเล็ก ไม่อยากไปไหนเลยใช่ไหมคะ เราก็เป็นเหมือนกัน แต่เพราะอะไรเราต้องไปตรวจหลังคลอดเหรอคะ เคยถามคุณหมอกันบ้างหรือเปล่า
  1. เพื่อตรวจภายในดูว่ามดลูกเข้าอู่หรือยัง มดลูกแห้งหรือยัง ถ้าแห้งดีก็สามารถมีเพศสัมพันธุ์ได้คะ แต่ระหว่างนั้นก่อนไปตรวจห้ามมีเพศสัมพันธุ์นะคะ เพราะถ้าปากมดลูกยังไม่ปิดดี เชื้อโรคอาจเข้าไปได้คะ และคุณหมอจะดูมะเร็งปากมดลูก ซึ่งอาจจะเจ็บบ้างนะคะ หลังจากนั้นเราก็ต้องตรวจภายในปีละ 1 ครั้งคะ เพราะคนที่เคยมีเพศสัมพันธุ์แล้วจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกคะ
  2. คุมกำเนิดหลังคลอดคะ คุณหมอจะได้แนะนำวิธีคุมกำเนิดไงคะ คุณแม่บางท่านอาจใช้ยาคุมอยู่ รู้หรือเปล่าละคะ ว่ายาคุมบางตัวที่เราเคยใช้ก่อนตั้งครรภ์หลังคลอดใช้ไม่ได้คะ เพราะว่ายาคุมที่มีส่วนผสมของ estrogen จะส่งผลทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงคะ ต้องใช้แบบที่มี Progesterone อย่างเดียวคะ
  3. ดูแผลทั้งฝีเย็บ และบริเวณที่ผ่าตัดคลอด แต่ส่วนมากหมอจะนัดมาดูหลังคลอดได้ 7-10 วันคะ แต่บางกรณีหลังคลอดเดือนครึ่ง ก็ดูอีกครั้ง
                               เห็นความสำคัญของการตรวจหลังคลอดแล้วใช่ไหมคะ ไปเถอะคะ

ยาทีควรเตรียมมีไว้ให้ลูก

                           เวลาลูกเป็นอะไรตอนกลางคืน จะไป รพ.ก็ลำบาก จะไปซื้อยา ร้านก็ปิด เคยไหมคะ? ดังนั้นวันนี้เรามาเตรียมตัวกันไว้ก่อนดีกว่า
  1. ยาทิงเจอร์มหาหิงค์ เป็นยาสามัญประจำบ้านอยู่แล้ว ไม่มีอันตรายคะ เพียงทาที่หน้าท้องลูกบางๆ ตรงบริเวณกระเพาะยิ่งดีคะ ซึ่งกระเพาะอยู่ตรงตำแหน่งทางซ้ายมือเยื้องมาตรงกลางคือลิ้นปี่ แล้วทาด้านหลังด้วยนะคะ บางคนทาฝาเท้าด้วย เพราะว่ามีเส้นประสาทเยอะ
  2. ยาลดกรด แล้วแต่คนคะว่าจะใช้อะไร เลือกที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และแอลกอฮอล์คะ
  3. Syring และเข็มฉีดยา เลือกเบอร์ใหญ่ๆ  16-21 ก็ได้คะ เอาไว้ดูดยาให้ลูกคะ
  4. Paracetamol ส่วนมากได้ใช้แน่ๆคะ เพราะหลังจากฉีดวัคซีนเข็มแรก ลูกมักจะมีไข้คะ
  5. CPM เอาไว้ตอนเป็นหวัด มีน้ำมูก หรือผื่นแพ้
                          ยาที่บอกต้องเป็นยาเฉพาะเด็กนะคะ ไม่ใช่เอายาของผู้ใหญ่มาให้เด็ก ควรอ่านฉลากยาก่อนใช้ ดูวันหมดอายุ ถ้าอาการไม่ดี ไม่แน่ใจอย่าให้ยาเอง หาคุณหมอดีกว่าคะ

หูลอก ผื่นตามข้อพับ

                             ตอนแรกทับทิมหูลอก(ทั้งในหูและหลังใบหู) 2 ข้าง แต่ข้างซ้ายน้อยกว่าข้างขวา อาจเพราะเราจับทับทิมนอนตะแคงขวาบ่อย หูข้างขวาเลยเป็นเยอะกว่า เคยหาข้อมูลในเน็ต มีหมอบางท่านบอกว่าเกิดจากเด็กอ้วน หรือจับตะแคงด้านนั้นบ่อยเกินไป เกิดจากความร้อน อับชื้น แรกๆเราใช้ oil เช็ดที่ลอกออก แล้วทาแป้งหลังใบหูหลังอาบน้ำทุกครั้ง แต่วันรุ่งขึ้นจะเป็นอีก ส่วนข้างซ้ายไม่เป็นแล้วอาจเพราะไม่ได้จับนอนตะแคงซ้ายแล้ว เราก็ทำอย่างนี้ได้ เดือนกว่า  ทับทิมหูลอกได้ เกือบ 2 เดือน เราทำยังไงก็ไม่หายเลยพาไปหาหมอเด็ก หมอเด็กก็ดูตามข้อพับด้วย ข้อพับแขน ข้อพับตรงข้อมือ พบมีรอยลอกๆ หมอเด็กบอกว่าเป็นภูมิแพ้ อาจเกิดจากตัวเด็กเอง เพราะพ่อกับแม่ไม่ได้เป็นภูมิแพ้ ก็บอกใช้ยาตัวเดิมที่มีส่วนผสม steriod มาทา เราก็ทาที่หู 2 หน แล้วใช้ oil เช็ดเหมือนเดิม ก็หาย แต่ยังเป็นนิดๆ ส่วนข้อพับ เราทาแค่ข้อพับแขน ข้อมือไม่ได้ทา เพราะว่าทับทิมเลียข้อมือ ดูดนิ้ว กลัวจะได้ steriod ไปเต็มๆ

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

ผื่นตรงคิ้ว

                            ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นขี้ตาของลูกไปติดตรงคิ้ว ทั้ง 2 ข้าง เช็ดเท่าไรก็ออก เช็ดไปจนคิ้วลูกแดงเลยละ ถามหมอเด็กให้หมอเด็กดู หมอเด็กว่าเป็นผื่นต่อมไขมัน ให้ยามาทา ซึ่งตัวยามีส่วนผสมของ steriod ถ้าหายหยุดใช้ยาเลย แล้วถ้าอยากให้หลุดออกเร็วก็ใช้ oil เช็ดออก เราก็ใช้ยาทาแค่ครั้งเดียวหลังจากนั้นก็ใช้ oil เช็ดออกตลอด ออกง่ายมากเลยละคะ

การลดน้ำหนักหลังคลอด

                            คุณแม่หลังคลอดแทบทุกคนต่างกังวัลกับน้ำหนักที่ขึ้นมา ยิ่งคุณแม่ที่ให้นมลูกเอง ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อผ่านน้ำนมให้ลูก อย่างที่รู้ๆกัน การให้นมแม่ มีประโยชน์ทั้งต่อตัวลูกและตัวคุณแม่ คุณแม่ที่ให้นมลูกเองจะมีแนวโน้มน้ำหนักจะลงเร็วกว่าคุณแม่ที่ให้นมชงนะคะ แต่พอ ผ่านไป 3 เดือนแล้วน้ำหนักจะเริ่มคงทีแล้วใช่ไหมคะ
                            ลองอ่าน วิธีลดน้ำหนักสำหรับคนไม่มีเวลา เพื่อมาดัดแปลงดูนะคะ และ ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน 3 วัน 1 Kg.

แอ้

                            คำสั้นๆแต่มีความหมายสำหรับเราคำนี้ ทุกคนคนแปลกใจ
                            ตั้งแต่ทับทิมเกิดมา เวลาทับทิมอึ คุณตามักจะบอกว่าแอ้ๆ ตลอด เหมือนเบ่งช่วยทับทิม เราก็ทำตาม คุณยายก็ทำตาม พออายุได้ เดือนกว่า อยู่ๆทับทิมก็ร้องๆให้กินนมก็ไม่เอา จะกล่อมนอนก็ไม่ใช่ ยิ่งร้องใหญ่  ตาได้ยินบอกว่า ทับทิมบอกแอ้ๆ ตาเลยบอกเราให้แกะผ้าอ้อมทับทิมจะอึ เราก็ยังบอกว่าไม่จริงมั้ง แต่ก็แกะ แล้วยกขาทับทิมขึ้นเหมือนทุกครั้งที่ทับทิมอึ ทับทิมก็แอ้ๆ สักพักก็อึออกมา ถึงตอนนี้ถ้าทับทิมบอกแอ้ๆ แล้วไม่แกะผ้าอ้อมให้ ทับทิมจะร้องใหญ่เลย ต้องรีบแกะผ้าอ้อมให้ เราคิดว่าถ้าทับทิมอึเองโดยไม่แกะผ้าอ้อมคงลำบากเพราะว่าผ้าอ้อมดันก้นไว้มั้ง แต่บางครั้งทับทิมเองก็คงสับสนระหว่างฉี่กับอึ บางครั้งบอกแอ้ๆ พอแกะผ้าอ้อมก็ทำเบ่งแต่เป็นฉี่แทน แล้วก็ยิ้มๆก่ะเรา ประมาณว่าแอ้ๆแล้ว อิอิ

ผื่นร้อน

                           ต้องเล่าความเป็นมาก่อนนะคะ ตอนออกจาก รพ.มา ก็ห่อตัวลูกตลอดเพราะกลัวไม่สบาย ก็เขาบอกต่อว่างั้นอะ ว่าต้องความอบอุ่นร่างกายลูก เราก็ห่อตลอด ตาก่ะยายยิ่งแล้วใหญ่ห่อมากกว่าเราอีก เราก็บอกว่าทับทิมเหงื่อออกมาก ยายก็ว่าร้อนดีกว่าหนาว เดี่ยวเป็นปอดบวม เราไม่อยากเถี่ยงเลยทำตาม ยายก็ทั้งห่อ ทั้งห่มผ้าไม่รู้จะกี่ผื่น เราก็ยังแอบเอาออกบ่อยครั้ง
                            พอทับทิมอายุได้วัน 5 วันมั้ง ทับทิมมีผื่นขึ้น(ตุ่มลักษณะนูนข้างในสีเหลืองเหมือนหนอง) ขึ้นมากๆเลยละ บริเวณหลังใบหู ข้อพัก ซอกต่างๆ ยิ่งหลังใบหูนะ แค่ด้านเดียวเรานับ 20 กว่าตุ่ม พอวันที่ 7 พาไปพบหมอเด็กตามนัด หมอเด็กเห็นสภาพทับทิมแล้วบอกว่าห่อเยอะมาก(ตอนนั้นใช้ผ้าอ้อมผื่นใหญ่ห่อ แล้วใส่ผ้าอ้อมผื่นเล็กห่อส่วนล่างอีกที) ที่ผื่นออกนั้น เกิดจากความร้อน ห่อเด็กมากเกินไป ใส่เสื้อผ้าที่มันสบายๆดีกว่า หมอก็ให้ Hibitane scrub มากันติดเชื้อ ใช้ถูบริเวณที่เป็นทิ้งไว้ 5 นาทีล้างออก ลืมบอกไปตัวนี้ต้องผสมน้ำก่อนแล้วชุบสำลีฟอก คือมันเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ มักใช้ในการฟอกมือก่อนเข้า Case ผ่าตัดคะ แต่เราใช้แค่วันแรก วันต่อๆมาไม่ได้ใช้ เพราะว่า เราอาบน้ำวันละ 2 รอบ ไม่ถึงอาทิตย์ผื่นหายคะ ยุบหมด แล้วการแต่งตัวของลูกเราก็เปลี่ยนจากห่อตัวมาใส่เสื้อคล้องคอ(กันเปื้อนน้ำลาย)แค่นั้นนะคะ แล้วก็ใช้ผ้าอ้อมผื่นเล็กในส่วนล่างกันฉี่/อึ แล้วก็นอนแอร์เกือบตลอด เพราะทับทิมขี้ร้อนมากๆ
                           หมอเด็กยังช่วยอธิบาย คุณยายด้วยว่าปอดบวมไม่ได้เกิดกันง่ายๆ แล้วไม่ได้เกิดจากความเย็นด้วย เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และหมอบอกว่าให้เด็กนอนแอร์ดีกว่าพัดลม พัดลมจะทำให้เกิดภูมิแพ้ได้
                          ต่อจากนั้นเมื่อมีอะไรเราบอกยาย ถ้ายายไม่เชื่อ เราก็ยกตัวอย่างกรณีนี้ขึ้นมา ยายก็เงียบเลย อิอิ

การอาบน้ำลูกน้อย

                          
                            อย่างแรกคุณต้องกลับไปอ่านบทความ การเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำลูกน้อย ก่อนจะดีกว่านะคะ ถ้าอ่านเสร็จแล้วมาเริ่มขั้นตอนการเตรียมกันเลยคะ
  1. ถ้าเราจะอาบน้ำลูกครั้งแรก หาผู้ช่วยไว้เผื่อหยิบจับอะไรดีกว่าคะ ถ้าไม่มีคนช่วยจริงๆ เราควรแน่ใจว่าเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้ว
  2. น้ำที่ใช้อาบน้ำลูกไม่ควรร้อนหรือเย็นเกินไป ถ้าค่อนข้างร้อนผิวลูกยิ่งสูญเสียความชุ่มชื้นคะ แต่ถ้าเย็นลูกก็จะหนาวคะ ถ้าเราอาบน้ำลูกครั้งแรกอย่าใส่น้ำเต็มคะ ประมาณครึ่งอ่างก่อน ถ้าชำนาญค่อยเพิ่มปริมาณน้ำคะ
  3. จัดวางตำแหน่งสิ่งของใหถนัดมือคะ
  4. เลือกเสื้อผ้าลูกไว้ใสหลังอาบน้ำ
  5. ล้างมือให้สะอาดคะ
เริ่มขั้นตอนอาบน้ำลูกอย่างละเอียดเลยคะ
  1. นำผ้าเช็ดตัวรองที่เบาะ อีกชั้นให้นำผ้าอ้อมรองอีก เพื่อจะห่อตัวลูกขณะสระผม วิธีห่อตัวลูก คือ นำผ้าอ้อมผืนใหญ่พับมุมเป็นสามเหลี่ยมตรงบริเวณศรีษะลูก แล้วเก็บแขนสองข้าง คือห่อยังไงก็ได้ที่คิดว่าลูกจะอบอุ่นขณะเราสระผมนะคะ
  2. เอาผ้าสะอาด ขอแนะนำเป็นผ้าก็อซจะดีกว่าคะ ไม่มีขน(ผ้าอื่นๆมักจะมีขน เช่น ผ้าอ้อม) สะอาดด้วย ทำความสะอาดง่ายกว่าคะ มาพันนิ้วมือ(นิ้วชี้ดีที่สุด) จุมในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว เช็ดทำความสะอาดลิ้นและเหงือกคะ
  3. เอาสำลีก้อนจุมลงในน้ำต้มสุกที่เย็นแล็ว 8 ก้อนคะ 2 ก้อนแรกบีบแล้วเช็ดตาลูก จากหัวตาไปหางตา โดยไม่วกกลับมาเช็ดอีกคะ ถ้ายังไม่สะอาดให้นำก้อนใหม่มาเช็ดเหมือนเดิม แล้วก็เช็ดหน้าคะส่วนก้อนที่เหลือเก็บไว้ใช้อีกคะ
  4. เอา Cotton Bud ก้านเล็ก 4 ก้าน ชุบ Baby oil ไม่ควรชุ่มมากคะเช็ดใบหู หลังใบหู และในหู แต่อย่าลึกคะ ที่เหลือนำมาเช็ดในสะดือ(ในกรณีที่สะดือแห้งแล้วนะคะ)
  5. การดูแลสะดือลูก ในกรณีที่สะดือยังไม่แห้งคะ
  6. อุ้มลูกที่ห่อตัวแล้วขึ้นมา เอาน้ำจากกะละมังใบเล็กที่เตรียมไว้ชโลมผมลูกแล้วใส่แชมพูสระผม หรือว่าจะเป็น Head to toe ก็ได้คะ สะดวกดี แล้วเอามือลูบๆนวดศรีษะลูกเบาๆ จากนั้นเอาน้ำจากกะละมังใบเล็กใบเดิมล้างออก แล้วเอาน้ำจากอ่างล้างออกอีกทีคะ เพื่อจะได้เอาคราบน้ำยาออกไปให้หมดคะ
  7. เช็ดผมลูกให้แห้ง ถ้าผมลูกยาวเอาที่เป่าผมมาเป่าให้คะ แต่ไม่ควรเป่าร้อนคะ
  8. เอาผ้าห่อตัวออก อุ้มลูกมาที่อ่างอาบน้ำโดยให้ก้นลูกวางลงอ่าง ส่วนคอด้านหลังลูกเราประคองเอาไว้คะ ถ้าคนถนัดซ้ายให้ใช้มือขวาประคอง คนถนัดขวาใช้มือซ้ายประคองคะ เพราะว่าอีกมือเราต้องถูทำความสะอาดลูกคะแล้วกดสบู่หรือ Head to toe  ถูด้านหน้าก่อน ถูตามซอกคอ รักแร้ด้วยนะคะ แล้วกวักน้ำล้างออกแล้วจับลูกคว่ำโดยเอามือเราจับตรงรักแร้ลูกไว้(ด้านที่ไกลตัวเรามากที่สุด)แล้วกดสบู่หรือ Head to toe ถูทำความสะอาดด้านหลัง แล้วกวักน้ำล้างออก การถูนี้ถูไงก็ได้คะที่คิดว่าสะอาด แต่ไม่ควรแรง และเล็บเราไม่ควรยาวด้วยคะ แต่อย่าลืมนะคะว่าลูกเราไม่สกปรกมาก ไม่ต้องถูมากก็ได้นะ อาบน้ำนานลูกจะหนาวคะ เพราะว่าลูกยังควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ดีเท่าผู้ใหญ่อย่างเรานะคะ
  9. ยกลูกขึ้นมาจากอ่าง เอาผ้าอ้อมซับลูกก่อน หรือใครจะใช้ผ้าเช็ดตัวยิ่งดีคะ แล้วเอาผ้าที่ซับนั้นออก เอาผ้าเช็ดตัวอีกอันซับอีกที
  10. นำสำลีก้อนที่จุมในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว เช็ดทำความสะอาดตรงรักแร้ เพราะการอาบน้ำเราอาบได้ไม่ทั่วถึงบริเวณซอกต่างๆคะ แล้วมาทำความสะอาดอวัยวะเพศของลูกคะ โดยเช็ดที่ขาหนีบก่อน ถ้าเป็นผู้หญิง ก็ต้องแหวกแคม แล้วเช็ดเบาๆนะคะ แล้วบีบน้ำล้าง ข้อเน้นเบาๆ อย่าทำรุนแรงนะคะ แรกๆ อาจเห็นไขติดอยู่ข้างใน ไม่ต้องเอาออกให้หมดในครั้งเดียวคะ ค่อยๆออกวันละนิด 
  11. ซับให้แห้ง ช่วงนี้ห่มผ้าให้ลูกด้วยนะคะ แล้วทาครีมที่หน้าด้วย baby cream ถ้าลูกยังหนาวให้ห่มผ้าลูกก่อน พอคิดว่าอุ่นแล้ว ก็เริ่มทาครีมที่ตัวคะด้วย  Baby lotion คะ ถ้าหน้าหนาวไม่ทาแป้งก็ได้คะ เพราะแป้งจะดูดความชื้น หรือครีมที่เราทาให้ลูกคะ
  12. เช็ดทำความสะอาดในรูจมูกคะ แนะนำว่า นำสำสีก้อน หรือสำลีแผ่นก็ได้คะ ฉีกมาให้พอดี ไม่ใหญ่เกินไป เช็ดในรูจมูกคะ เพราะว่าบางทีใช้ Cotton bud ลูกอาจดิ้นพอดีตอนเรากำลังเช็ดอยู่คะ ถ้าไม่สกปรกก็ไม่ต้องเช็ดคะ แต่เท่าที่ผ่านมาบางทีจะมีคราบน้ำนมแห้งติดอยู่ในรูจมูกด้วยคะ
  13. แต่งตัวลูกคะ ตามสภาพอากาศคะ ถ้าร้อนก็ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าหนาคะ แต่หลังอาบน้ำควรมีผ้ามาห่มตัวลูกด้วยคะ หลังจากสักพักหรือลูกเริ่มร้อนมีเหงือออกให้นำผ้าออกคะ

เทคนิคอาบน้ำให้ลูกอารมณ์ดี
  1. พูดคุยกับลูกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เช่น สระผม อาบน้ำ หรือว่าร้องเพลงเป็นสัญลักษณ์คะ เช่นเพลงอาบน้ำ ลองหาดูนะคะ
  2. วางสิ่งของที่มีสีสันรอบๆอ่าง(ไม่ให้เกะกะขณะเราอาบน้ำลูกนะคะ) เมื่อลูกเริ่มมองเห็นเขาจะชอบคะ
  3. ขั้นตอนต่างๆ ดัดแปลงได้คะ เช่นถ้าลูกเริ่มง่วง หิว ร้องงอแง เบื่อ แล้ว ขั้นตอนเล็กๆน้อยข้ามไปก่อนค่อยทำทีหลังได้คะ เช่นเมื่อลูกหลับตื่นมาอีก 1 ชั่วโมงค่อยทำก้ได้คะ แต่ไม่ควรข้ามเป็นวันหรือหลายชั่วโมงนะคะ  เช่น ทำความสะอาดสะดือ เช็ดหน้า เช็ดหู เช็ดลิ้น ทาครีมที่หน้า
  4. เด็กบางคนอาจแพ้ครีมต่างๆ ลอง test ดูก่อนนะคะ อาจลองที่ท้องแขนลูกก่อนก็ได้คะ
  5. แล้วแต่เทคนิคแต่ละคนคะ ก่อนอาบน้ำลูกควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

การแหวะนมของลูก

                              ตอนแรกตกใจนะที่เห็นทับทิมแหวะนมออกมามาก เราก็นึกว่าลูกคงได้นมมากเกินไปแต่พอแหวะนมแล้วลูกก็ยังหิว จะดูดนมอีก เราก็ไม่อยากให้ แต่ลูกก็ร้องจะดูดนมอีก เราก็ต้องให้ คุณตาคุณยายก็ว่า อ๊วกแล้วยังจะให้กินอีก เดี่ยวก็อ๊วกอีกหรอก (ทำนองนี้)  เราเลยหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตดู พบหลายๆข้อมูล บอกว่าเป็นอาการปกติของเด็กทารก คือหูรูดของกระเพาะอาหารยังไม่แข็งแรงพอ ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่วางใจ พาทับทิมไปหาหมอเด็กอีก หมอเด็กก็บอกว่าถ้าลูกน้ำหนักขึ้นดี สิ่งที่อ๊วกออกมาไม่มีเลือด หรือ สีผิดปกติออกมาก็ไม่เป็นไร รวมทั้งไม่อาเจียนแบบพุงแรงร่วมกับการเป็นไข้ ถือว่าปกติของเด็ก แต่ตอนแหวะนมนั้นต้องจับศรีษะลูกตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง ไม่งั้นอาจสำลักได้
                               ตั้งแต่เลี้ยงทับทิมมา สังเกตดูสิ่งที่ทำให้ทับทิมจะแหวะนม คือ
  1. อิ่มเสร็จก็จับนอนไม่ได้เรอ  วิธีแก้ คือจับเรอ แต่บางทียากมากกว่าจะเรอออกมาก เป็นครึ่งชั่วโมงก็ไม่เรอ บางทีก็ใช้เวลาไม่กี่นาทีพออุ้มเรอก็เรอเลยก็มี เราก็หาข้อมูลมาเรื่อยๆ ว่าทำไง มีบางบทความบอกว่า ให้จับลูกนอนตะแคงขวา เพราะว่ากระเพาะอาหารอยู่ทางซ้ายเวลาตะแคงขวา กระเพาะจะอยู่สูง ทำให้มีโอกาสแหวะนมได้น้อยกว่าตะแคงซ้าย จากนั้นเราก็จับลูกตะแคงขวาหลังจากดูดนมเสร็จ(หลังจากอุ้มเรอแล้วนะ) แต่ทางทีดีจับลูกเรอ เสร็จแล้วอุ้มให้ศรีษะอยู่สูงประมาณ 15 องศาก็ได้คะ ประมาณ 15-30 นาทีจะดีคะ ให้นมได้ลงไปสำไส้เล็กบ้าง
  2. อิ่มเสร็จจับเรอทันที นมยังไม่ทันได้ลงไปก้นกระเพราะ แทนทีจะเป็นลมออกมาเป็นนมแทน หลังจากนั้นเราก็อุ้มให้ลูกนอนหัวสูงสักประมาณ 10 วินาที แล้วค่อยๆอุ้มเรอ สังเกตุ ตอนอุ้มเรอถ้าลูกไม่แอ่นหน้าอกมาก็อุ้มเรอได้เลย บางทีลูกแอ่นอกมาเราอุ้มเรอ โดนกระเพาะพอดี นมที่ดูดไปแหวะออกมาหมดเลย
  3. กินนมมากเกินไป หลังจากนั้นเราก็พยายามกะดูเวลาที่ทับทิมดูดนม ไม่ให้ดูดมากเกิน ซึ่งตามปกติ เด็กจะดูดนมประมาณ 5- 20 นาที (แล้วแต่คน และแล้วแต่ว่าตอนนั้นนมคัดมากขนาดไหน ซึ่งถ้าเป็นกลางคืนเด็กนอนนาน นมอาจคัดมาก อาจใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำในการดูดนม)
  4. นอนให้นม เด็กบางคนอาจไม่เป็นนะคะ แต่ทับทิมเวลานอนให้นม ชอบดิ้น ทำปากหลุดจากหัวนมอยู่เรื่อย ทำให้ได้ลมไปเยอะ
  5. ข้อนี้สำหรับคุณแม่ที่ให้นมขวดนะคะ พยายามเลือกจุกนมให้ถูกไม่เล็กเกินไป ไม่ใหญ่เกินไป ถ้าเล็กเกินไปลูกจะได้ลมไปด้วยขณะดูดนมคะ แต่ถ้าใหญ่เกินไปน้ำนมจะไหลเร็จคะ
                             สรุป การแหวะนมนั้นเป็นเรื่องปกติของเด็กนะคะ เพียงแต่เราต้องสังเกต สี สิ่งที่ออกมา และลูกร่าเริงแข็งแรงดี น้ำหนักตัวลูกว่าขึ้นตามปกติหรือไม่ แล้วการแหวะนมจะค่อยๆดีขึ้นคะ เด็กบางคน 4-6 เดือนก็เริ่มแหวะน้อยลงแล้ว แต่ถึงกระนั้นเราคนเป็นแม่ก็อดห่วงไม่ได้ จริงไหมคะ คิดว่าสิ่งที่บอกๆไปอาจเป็นประโยชน์กับคุณแม่หลายๆท่านนะคะ

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

การเลือกเสื้อผ้าเด็ก

คุณแม่ คุณตา คุณยาย หรือ ญาติๆ อาจสนุกกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เด็ก แต่บางทีซื้อมาก็ใส่ไม่กี่หนเองคะ เพราะว่าอะไรเหรอ บางทีเราเลือกเสื้อผ้าไม่เป็นคะ วิธีเลือกซื้อเสื้อผ้าจากประสบการณ์
  1. เลือกที่จะใส่ได้จริง ไม่ต้องเน้นความน่ารักมากไป
  2. เลือกที่ใส่ไม่ยาก เพราะใส่ยากลูกรำคาญ ร้องคะ แล้วเราต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือเสื้อบ่อยด้วย จากที่ลูกอึ ฉี่ แหวะนม ต่างๆนานา คะ
  3. เลือกที่ไม่มี รอยผ้าปัก จะดี เพราะตรงรอยปักจะเจ็บคะ
  4. เลือกก่อน คือ ถ้าอายุ 3 เดือน เลือก ของ 6 เดือนแทนคะ เพราะว่าบางทีใส่ Size 3 เดือนไม่ได้คะ เพราะว่าอย่างทับทิมซื้อมา 6 เดือน 3 เดือนใส่ได้แล้วคะ ซื้อของ 3 เดือน ใส่ไม่ได้ คับซะแล้ว
  5. ถ้าจะซื้อแบบใส่ศรีษะได้ ให้ดูว่าความกว้างใส่เข้าได้ไหม เพราะว่าเคยไปซื้อแบบน่ารักมา แต่คอเสื้อแคบมาก ใส่เข้าหัวลูกไม่ได้ เสียดายของเลยคะ
  6. พยายามอย่ามีกระดุมเยอะ ลูกจะเจ็บคะ
  7. ชุดหมี ต้องเลือก size ใหญ่กว่าคะ เพราะว่าเผื่อผ้าอ้อมด้วยคะ
  8. เลือกผ้าที่ใส่แล้วคิดว่าจะสะบายคะ คือหน้าร้อน หน้าฝน อย่าซื้อแบบหนา เพราะร้อนแล้วแห้งยาก
  9. กางเกง ถ้าคุณแม่ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้คุณลูกตลอดเวลา แนะอย่าซื้อเยอะคะ ถ้าเราใส่ผ้าอ้อมแล้วจะไม่ชอบใส่กางเกงให้ลูกคะ เพราะว่ามันยิ่งรัดตรงเอวลูก ถ้าซื้อเลือกซื้อตอนหน้าหนาวเป็นกางเกงขายาวเลยดีกว่าคะ แต่ถ้าจะให้ดีตอนกลางวันให้ลูกใช้ผ้าอ้อมผ้าหรือใส่แต่กางเกงอย่างเดียวจะดีคะ แล้วตอนกลางคืนค่อยใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ลูกจะได้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผื่นคะ
  10. ถุงเท้า พยายามเลือกแบบเรียบคะ เพราะถ้ามีสีสันเยอะ มีเส้นดายเยอะ คือ เส้นดายเหล่านั้นอาจไปรัดนิ้วน้อยๆของลูกจนเป็นอันตรายได้
  11. พยายามนับอายุลูกดีๆก่อนซื้อเสื้อผ้าคะ เช่นถ้าลูกตอนนี้ อายุ 3 เดือน พออายุ 6-9 เดือนจะอยู่ในหน้าไหนจะได้ซื้อเสื้อผ้าได้ถูกคะ เช่นถ้าเราซื้อชุดแขนยาวขายาวให้ลูกตอนอายุ 6-9 เดือน แต่มันดันเป็นหน้าหนาวก็ไม่ได้ใส่พอดีคะ
  12. ชุดหมีเลือกแบบคอกว้างๆหน่อยนะคะ เพราะเราสามารถมาใส่ทางขาได้ก่อนคะ ง่าย สะดวก ลูกไม่รำคาญตอนเราใส่ด้วยคะ

*แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนคะ

การเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำลูกน้อย

  1. อย่างแรกต้องอ่างคะ ขอบอกว่าพยายามเลือกอ่างที่มีที่นูนตรงกลางคะ เอาไว้ให้ก้นลูกวางตรงนั้น เราจะได้ไม่เมื่อยไงคะ และเลือกอ่างที่ใหญ่เท่าที่จะใหญ่ได้ เพราะว่าตอนนี้ทับทิมหัวชนขอบอ่างบ่อยมาก และที่สำคัญซื้อที่นอนอาบน้ำให้ลูกด้วย แต่เอาใส่ในอ่างไม่ได้ ว่าจะไปหาซื้ออ่างใหญ่ๆมาก็ไม่มีเวลา
  2. กะละมังใบเล็ก เอาไว้สระผมคะ
  3. Head to toe ขอแนะนำเป็นแบบขวดปั้มคะ สะดวกในการใช้ดี
  4. หวี ต้องพยายามหวีทุกครั้งที่สระผมคะ เอาพวกน้ำคล้ำที่ติดอยู่ที่หนังศรีษะลูกออกวันละนิด แต่ถ้าลูกใครผมไม่เยอะไม่ต้องก็ได้คะ แล้วหวีต้องแบบนุ่มนะคะ
  5. Baby lotion เอาไว้ทาตัวลูก เพราะเด็กมักจะผิวแห้งจากการที่สูญเสียความชื้นง่ายคะ
  6. Baby oil เอาไว้หยด ที่อ่างก่อนอาบน้ำลูกคะ หรือว่าจะเอามาทาที่ตัวลูกก็ได้คะ
  7. แป้ง พยายามเลือกแบบ New Born จะดีคะ ยิ่งถ้ามีส่วนผสมของ Zinc oxide เอาไว้กันก้นแดงได้คะ
  8. Vaseline intensive care เอาไว้ทาก้นคะ เลือกกระปุกเล็กก็พอคะ เพราะว่าเราเลือกกระปุกใหญ่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้แล้วเพราะทับทิมอึน้อยลง ก้นหายแดงแล้วคะ
  9. สำลี แนะนำว่าสำลีก้อนดีกว่าคะ เอาไว้เช็ดตา เช็ดก้น เช็ดน้องสาวของลูกสาว แล้วก็เช็ดตามซอกรักแร้ ซอกขาหนีบ ซึ่งเวลาอาบน้ำบางทีลูกอ้วน เราอาบได้ไม่ทั้วถึงตามซอกคะ
  10. Cotton Bud ก้านเล็ก แนะของรถพยาบาลคะ เอาไว้เช็ดหู จมูก สะดือ
  11. แอลกอฮอล์ ในกรณีที่สะดือยังไม่แห้งคะ
  12. ผ้าเช็ดตัว ถ้าจะให้ดี มีผืนเล็ก กับผืนใหญ่จะดีคะ
  13. ผ้าอ้อม เอาไว้ห่อตัวลูกตอนสระผม และกันลูกฉี่หรืออึใส่เราตอนสระผมได้ด้วยคะ
  14. แก้วน้ำ หรือภาชนะเอาไว้ใส่น้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว (เอาสำลีใส่อีกที)
  15. ผ้าสะอาด เอาไว้เช็ดลิ้นลูกคะ ขอแนะว่าผ้าก๊อสดีกว่าคะ เช็ดง่าย
หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างแล้วแต่บางคนจะถนัดใช้คะ แล้วบางอย่างก็ต้องทดสอบก่อนว่าลูกแพ้หรือเปล่า

ผิวหน้าลอกแก้อย่างไร

                           เด็กเล็กๆมักจะมีผิวลอกเป็นธรรมดา ตอนแรกเราใช้ Baby oil เช็ด แต่มันก็ลอกอีก แต่ก็ไม่รู้จะใช้อะไรดี ก็ใช้ไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์ยายเห็นทนไม่ได้ สงสัยกลัวใครเห็นหลานสาวไม่สวยอะ เลยว่าลองซื้อ Baby Cream มาทา เราก็ยังเถียงนะว่า Baby oil น่าจะดีกว่าเพราะว่ามันกว่า แต่ยายว่าก็ทาแล้วมันไม่ดีขึ้น เราเลยลองเปลี่ยนมาใช้ที่ยายบอก เห็นผลเลยวันเดียวหน้าลูกหายลอกเลย หลังจากนั้นก็ใช้ทุกเช้าเย็นเลยละ แต่ว่าเลือกแบบธรรมดานะ ไม่ต้องมี Vitamin เพิ่มหรอกคะ เพราะว่า อย่าง vitamin A ยิ่งทำให้หน้าแห้ง(ถ้าผู้ใหญ่จะใช้ทาควรใช้ทาในตอนกลางคืน ซึ่งจะช่วยกระชับรูขุมขนคะ) แล้วอีกอย่างกลัวลูกแพ้ด้วย ดังนั้นคิดว่าเลือกแบบธรรมดาดีกว่าคะ ถ้าจะคิดมาทาให้ลูกน้อย

การดูแลสะดือของลูก

                           แรกเกิดสะดือยังไม่แห้งต้องทำความสะอาดให้ดีไม่งั้นลูกติดเชื้อได้ ก็ทำตามคำแนะนำของพยาบาลห้องเด็กคือ เอา Cotton Bud เช็ดสะอาด เราใช้ก้านเล็กตรารถพยาบาล เพราะมันเล็กจริงๆ นำมาชุบแอลกอฮอล์ เช็ดโคนสะดือออกมารอบนอก เราใช้ประมาณ 2-3 ก้าน ทุกเช้าเย็น
                           และแล้ววันหนึ่งทับทิมอายุได้ 5 วัน  ก่ะลังให้นมทับทิมอยู่ แล้วอยู่ๆทับทิมก็ร้องดิ้นเพราะว่าฉี่ เราก็วุ่นก่ะฉี่ทับทิม หันมาเจออะไรสีคล่ำๆ ตอนแรกนึกว่าทับทิมอึเป็นก้อน ดูดีๆนั้นสะดือของทับทิม พอสะดือหลุดเราก็ยังเช็ดต่อนะ เพราะยังมีคราบเลือดเก่าอยู่ พออายุ 7 วันพาไปพบหมอเด็กตามนัด ดูตัวเหลืองกับสะดือ คุณหมอดูบอกว่าถึงมันจะหลุดแล้วเราก็ต้องเช็ดไปเรื่อยๆจนกว่าว่าสะดือจะแห้งจริงๆ เราก็เช็ดต่อจนแห้งประมาณ 4 วันมั้ง
                           ทุกวันนี้เราก็เช็ดตรงสะดือลูกอยู่นะ เพราะบางทีก็มีคราบแป้ง เหงื่อตรงสะดือได้ แต่ไม่ได้ชุบแอลกอฮอล์

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

การเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปของทับทิม

                          แรกเกิดทับทิมได้ใช้ผ้าอ้อมผ้าแล้ว ทับทิมหลับๆตื่นๆเพราะว่าเดี๋ยวก็ฉี่ เดี๋ยวก็อึ เดี๋ยวหิวนม แทบจะตื่นทุกครึ่งชั่วโมงเลย พออายุได้ 10 กว่าวัน คุณยายเลยบอกว่าสงสารไม่ได้หลับ และทับทิมก็เกิดหน้าฝนผ้าอ้อมชื้นมาก ต้องนำมารีดก่อนใช้ ถึงแม้ว่าจะมีผ้าอ้อมผ้าหลายผื่น(เกือบ 100 ผื่น)ก็ยังไม่พอ เพราะว่าทับทิมอึบ่อยวันละ 10 กว่าครั้ง(ไม่รวมฉี่) ทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมผ้าบ่อยมาก เลยให้ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ตอนแรกใช้ Mamy Poko ซึ่งถือว่าแพงเกือบชิ้นละ 10 บาท ทับทิมใช้วันละประมาณ 13-18 ชิ้น ตกวันละประมาณ 130-180 บาท เดือนหนึ่งก็ประมาณ 4000 บาท แล้วรู้สึกว่าMammy Poko ความกว้างใหญ่เกินตัวทั้งๆที่เลือก size S เลยลองมาใช้แบบ New Born ดูก็เล็กเกินไปจนขอบเว้าขาแดง เลยลองมาใช้ Drypers ติดเอวแบบแทบกาว บางทีแทบกาวโดนขาทับทิมเป็นรอยแดงเลย เอวแบบยืดได้ทับทิมใส่ไม่อึดอัดไม่ต้องกังวลว่าจะใส่รักแน่นเกินไป เพราะว่าเวลานอนท้องจะแฟ้บ เวลาอุ้มขึ้นบ่าจะมีพุง ความกว้างโอเค แต่ความยาวสั้นไป เวลาทับทิมอึ อุจจาระมักจะออกมาโดนหลังทับทิมตลอด แล้วไม่ค่อยซึมซัม และกระดาษแข็งกว่า Mammy Poko เลยลองเปลี่ยนมาใช้ของ baby love ความกว้างความยาวรู้สึกจะเท่ากับ Drypers แต่ดีตรงที่ติดเอวแบบ Mammy Poko ไม่ใช่แบบแทบกาว แล้วเป็นเอวแบบยืดได้เหมือน Drypers แต่ข้อเสียตรงที่มันไม่ค่อยซึมซับเท่าไร และกระดาษจะแข็งกว่า Mammy Poko 
                           คุณยายกับคุณแม่เลยใช้ 2 ยี่ห้อ คือ Mammy Poko กับ Baby Love สลับกันไป กันขอบขาทับทิมแดงด้วย ยิ่งทับทิมอุจจาระบ่อย วันละประมาณ 10กว่าหน บางทีเล็ดมานิดหน่อยก็เปลี่ยนผ้าอ้อมละ เลยใช้ Baby Love และพอทับทิมได้ 2 เดือนก็ไม่ค่อยอึ นอนนานขึ้น แม่เลยมักทำโน้นทำนี้ได้ บางทีทิ้งให้ทับทิมนอนหลับคนเดียวพอใช้ Baby Love ถ้าทับทิมอึ จะร้องเพราะมันไม่ซึมซับอุจจาระ ก็ดีไปอย่างนะ เราไม่อยู่กับลูกบางทีไม่รู้ว่าลูกอึ พอผ้าอ้อมไม่ซึมซับอึ ทับทิมก็ร้องเพราะเปียก เราก็จะรู้หาสาเหตุที่ลูกร้อง แต่ถ้าใช้ Mammy Poko มันซึมซับอุจจาระเหลวด้วยลูกมักจะไม่ร้องเราก็ไม่รู้จะรู้อีกทีก็ตอนเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือส่งกลิ่นเหม็นนี้แระ แต่ Maamy Poko ตรงด้านหลังบริเวณรองรับอุจจาระเหลวเราสามารถดูได้ถ้าลูกอึ จะเป็นสีเหลือง แต่ถ้ากลางคืนเปิดไฟสลัวจะไม่เห็น แต่ว่าก็สลับใช้
                           แต่พออายุได้ 2 เดือนกว่า ตรงขาหนีบ และตรงน้องสาว มีผื่น ไปหาคุณหมอ หมอบอกว่าเกิดจากความชื้นที่เราใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลา คุณหมอแนะนำว่าควรใช้ผ้าอ้อมผ้าตอนกลางวัน สวนตอนกลางคืนใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป  ต่อจากนั้นตอนกลางวันเราก็ใส่กางเกงขาสั้นให้ลูก พอลูกฉี่ก็เปลี่ยนให้ วันหนึ่งใช้หลายตัวเลยละ ลูกฉี่บ่อยมาก ส่วนตอนกลางคืนก็ใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
                           ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันแล้วแต่คนไหนจะชอบและสะดวกแบบไหน